พระคุณพ่อ - แม่



                                                    

เมื่อมารดาตั้งครรถ์ต้องใช้เวลาถึงสิบเดือน

      เรียกได้ว่าทุกข์ยากลำบากแสนสาหัส ตั้งครรถ์เดือนแรกชีวิตน้อยๆยังเสมือนหยดน้ำค้างบนใบหญ้าไร้ความแน่นอนตอนเช้าก่อตัวตอนเที่ยงอาจสลายไปก็ได้ พอเดือนที่สองก็คล้ายกับการจับตัวของเนยเหลว พอเดือนที่สามคลับคล้ายกับการจับตัวของก้อนเลือด พอถึงเดือนสี่จึงพอจะเป็นรูปร่าง
ของคนขึ้นบ้าง มารดาตั้งครรถ์เดือนที่ห้าอวัยวะต่างๆของทารกในครรถ์ เช่น ศรีษะ แขนขา
จึงค่อยเป็นรูปเป็นร่างขึ้น พอเดือนที่หกทวาร 6 อย่างของทารกในท้องมารดาก็เริ่มเปิด
ทวาร 6 อย่าง คือ ตา หู จมูก ปาก ลิ้น ใจ พอเดือนที่เจ็ดทารกในครรถ์ก็มีกระดูกครบ
360 ชิ้นและยังมีแปดหมื่นสี่พันรูขุมขน พอถึงเดือนที่แปดทารกในครรถ์ก็เกือยจะเป็นเด็กโดย
สมบูรณ์มีความรู้สึก มีชีวิตจิตใจ ต่อมาทวารทั้ง 9 ก็เริ่มเปิด เช่น ตา หู จมูก ปาก และทวารขับถ่ายเป็นต้น พอเดือนที่เก้าแขนขาของทารกในครรถ์มารดามักจะขยับตัว เตะถีบดั่งภูเขาเคลื่อนไหวทำให้มารดารู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลา ทารกในครรถ์ตั้งแต่แรกเริ่ม
จนกระทั่งคลอดตลอดเวลาต้องดื่มกินโลหิตมารดาเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต พอถึงเดือนสิบ
อวัยวะต่างๆของทารกก็ครบสมบูรณ์พร้อมที่จะออกมาชมโลก
     การตั้งครรถ์สิบเดือนความทุกข์ยากลำบากของมารดาเหลือจะกล่าว เพื่อให้ทารกคลอดสะดวก
โลหิตในกายมารดาหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ทำให้ทารกในครรถ์ลื่นไหลไปตามสายโลหิต การคลอด
ที่ปกติทารกจะงอมืองอเข่าเข้าหาตัวศรีษะลงล่างมารดาก็จะไม่เกิดอันตราย ในรายคลอดยาก
มือและเท้าน้อยๆจะเตะถีบดิ้นรนทำให้มารดารู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเสมือนถูกหอกดาบทิ่มแทง
สลบแล้วสลบอีกทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผู้เป็นบุตรต้องคิดถึงความเจ็บปวดทุกข์ยากของมารดา
ที่ให้กำเนิด ผ่านความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสมารดาถึงได้คลอดลูกรักออกมา ถ้าหากแยกแยะ
มารดาจะมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าสิบประการดังนี้
     ประการที่หนึ่ง พระคุณที่รักทนุถนอมปกป้องทารกในครรภ์
     ประการที่สอง พระคุณที่ได้รับความเจ็บปวดในขณะคลอด
     ประการที่สาม พระคุณที่ยอมทนทุกข์ทรมานเพื่อลูก และเมื่อคลอดลูกรักแล้วก็ลืมความทุกข์
                           ทั้งปวงจนหมดสิ้น
     ประการที่สี่ พระคุณที่เลี้ยงดู โดยสรรหาแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้กิน
     ประการที่ห้า  พระคุณที่กล่อมลูกน้อยให้หลับและให้นอนในที่อบอุ่น โดยแม่ยอมทนรับความ
                          หนาวเย็นและเปียกชื้นแทนลูก
     ประการที่หก พระคุณที่เลี้ยงลูกด้วยนมจากเต้าจนลูกอ้วนท้วน แต่ตนเองต้องผ่ายผอม
     ประการที่เจ็ด พระคุณที่ซักล้างผ้าอ้อมให้ลูกโดยไม่หวั่นเกรงว่ามือจะสกปรก หรือผิวหนังแตก
     ประการที่แปด พระคุณที่เฝ้าห่วงหาอาลัยจนหลั่งน้ำตา เมื่อยามลูกต้องจากอ้อมอกไปไกล
     ประการที่เก้า พระคุณที่คอยให้ความช่วยเหลือและยอมทนลำบากเพื่อลูกทุกอย่าง
     ประการที่สิบ พระคุณที่รักลูกสงสารลูกอย่างไม่มีเสื่อมคลาย

สรรเสริญ 10 ประการ

     สรรเสริญ 1 พระคุณที่รักษาทารกในครรภ์การได้เกิดเป็นคนนี้แสนยากนัก ต้องวนเวียนอยู่ใน
หกภูมินับภพนับชาติไม่ถ้วนกว่าจะได้มาเกิดเป็นคน ขณะเดียวกันก็ต้องมีบุญสัมพันธ์กับพ่อแม่
ในปัจจุบันชาติ จึงจะได้อาศัยครรภ์มารดามาเกิด ในราวเดือนที่ห้า ทารกในครรภ์มารดาจึงเริ่ม
ปรากฏมีอวัยวะต่างๆ ราวเดือนที่หก ทวารแห่งตา หู จมูก ลิ้น ปาก และใจ ก็เริ่มเปิด
ทารกในครรภ์น้ำหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน มารดารู้สึกเสมือนแบกภูเขาไว้ทั้งลูก ทารกในครรภ์มารดา
ดิ้นรนและถีบ ทำให้มารดารู้สึกเสมือนต้องลมพายุ หรือแผ่นดินไหว จิตใจหวาดผวา ห่วงกังวล
แต่ลูกในครรภ์ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ร่างกายและจิตใจก็เหนื่อยล้าจนไม่อยากแต่งตัว
เสื้อผ้าที่สวยงามถูกเก็บขึ้นไว้ ไม่สนใจส่องกระจกหวีผม
     สรรเสริญ 2 พระคุณที่ได้รับทุกข์ทรมานในขณะคลอดลูก โดยต้องตั้งครรภ์ถึงสิบเดือน
จึงจะถึงเวลาคลอด เช้ามารดาเหมือนคนเจ็บไข้ ไม่มีชีวิตชีวาร่างกายอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
โดยเฉพาะจิตใจหงุดหงิด เต็มไปด้วยความหวั่นกลัวต่างๆ เพราะห่วงกังวลความปลอดภัยของ
ลูกรักจนมักน้ำตาไหล โดยมักจะบอกญาติมิตรด้วยอาการเศร้าหมองว่า สิ่งที่ฉันหวั่นที่สุด
ไม่ใช่ความปลอดภัยของตัวเอง แต่กังวลว่าพญามัจจุราชจะมาพรากเอาชีวิตลูกฉันไป
     สรรเสริญ 3 พระคุณที่หลังจากคลอดแล้วลืมความเจ็บปวด ขณะที่มารดาคลอดลูกโดยเหตุ
ที่ต้องใช้แรงมากเสมือนอวัยวะภายในจะฉีกขาด สุดแสนเจ็บปวด สลบแล้วสลบอีก โลหิตที่
หลั่งไหลพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ มารดาที่รอดตายจากมหาภัยครั้งนี้พอฟื้นคืนสติขึ้นมา สิ่งแรก
ก็คือถามหาลูกรักของตน ครั้นพอรู้ว่าลูกรักปลอดภัยแล้ว รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกอุ้มลูกไว้แนบอก
ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจได้ขณะหนึ่งความเจ็บปวดสุดทนก็ประดังมาอีก เมื่อครู่ดีใจจนลืม
ความเจ็บปวด บัดนี้ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ
    สรรเสริญ 4 พระคุณของพ่อแม่ที่หวานอมขมกลืน พระคุณของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ยิ่งใหญ่
ดุจฟ้ามหาสมุทร เอาใจใส่ดูแลทุกวันคืนไม่เคยบึ้งตึง ความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกลึกซึ้งยากที่
จะหาสิ่งใดมาเปรียบ ขอเพียงให้ลูกอยู่ดีกินดี แม้ตนเองจะหิวโหยก็ยินยอม เพียงให้ลูกมีความสุข
พ่อแม่ก็พอใจแล้ว
     สรรเสริญ 5 พระคุณที่อยู่กับความเปียกชื้น ความรักของมารดาที่มีต่อลูกไม่มีที่สิ้นสุด ดึกดื่น
ลูกปัสสาวะรดที่นอนจนเปียกชื้นมารดารีบอุ้มลูกไปอยู่ที่แห้ง ส่วนตนแม้จะอยู่ในที่ชื้นและเย็น
ก็ไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่น้อย ขอเพียงให้ลูกได้หลับสบาย ส่วนตนเองจะหนาวเหน็บเพียงใดก็ทน
นมสองเต้าของมารดา คือตำหนักของลูกที่ให้ความอบอุ่นและคุ้มครอง เพื่อดูแลลูกน้อยมารดามัก
จะกางแขนทั้งสองข้างเพื่อบังลมหนาว การดูแลลูกน้อยพ่อแม่มักจะหาวิธีทำใหลูกสนุกสนาน
เพื่อจะได้โตไวๆ แต่มารดามักจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ
     สรรเสริญ 6 พระคุณที่เลี้ยงดูด้วยนมของตน บุญคุณของมารดาดุจดังแผ่นดินที่ให้กำเนิด
สรรพสิ่ง พระคุณของบิดาดุจดังแผ่นฟ้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ชาวโลก พ่อและแม่ล้วนแต่รักลูก
พระคุณของพ่อแม่เหมือนกัน ขอเพียงให้เธอเป็นลูกของพ่อแม่ ไม่ว่าจะเกิดมาอัปลักษณ์เพียงใด
พ่อแม่ไม่มีวันที่จะรังเกียจ และไม่เคยที่จะโกรธเกลียด แม้ลูกจะแขนขาหงิกงอเดินเหินไม่คล่อง
พ่อแม่ก็ไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ ตรงกันข้ามพ่อแม่กลับเพิ่มความรักและเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น
เพราะว่าลูกเป็นยอดดวงใจของพ่อแม่ พระคุณของพ่อแม่ยิ่งใหญ่กระไรปานนี้
     สรรเสริญ 7 พระคุณที่คอยทำความสะอาด เดิมมารดามีร่างกายที่สะอาดหมดจด ใบหน้า
งดงามเป็นหญิงสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ใบหน้าแดงระเรื่อบ่งบอกถึงวัยแรกรุ่น แต่ว่า
ไม่ทันเท่าไร เพื่อลูกจึงต้องตรำงานหนักใบหน้าที่เคยงดงามกลับกลายเป็นร่วงโรยแก่เกินวัย
มือที่เคยอ่อนนุ่ม เมื่อต้องทำความสะอาดให้ลูกทุกวัน กลับกลายเป็นหยาบกร้านเป็นริ้วรอย
มารดาที่น่าเคารพบูชาและน่าสงสาร ท่านยอมเสียสละช่วงชีวิตอันมีค่าของตน เพื่อบุตรธิดา
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแลกมาเป็นใบหน้าอันเหี่ยวย่นร่วงโรย
     สรรเสริญ 8 พระคุณที่ห่วงหาอาลัย ญาติมิตรที่ตายจากไปทำให้คนเศร้าโศกเสียใจ เมื่อลูกรัก
จากไปไกล อาจทำให้พ่อแม่เสียใจ ลูกจากไปไกลบ้านคงต้องผจญอุปสรรคนานา พ่อแม่เป็นห่วง
ตลอดเวลา มักจะอธิษฐานขอให้พระคุ้มครอง ขอให้กลับบ้านเร็ววันและโดยสวัสดิภาพ ลูกบางคน
จากไปหลายปีไร้ข่าวคราว พ่อแม่อายุมากอยู่บ้านเฝ้ารอคอยทุกวันคืนด้วยน้ำตานองหน้า
     สรรเสริญ 9 พระคุณที่เอื้ออาทร บุญคุณของพ่อแม่ใหญ่หลวงนัก ผู้เป็นลูกยากจะหาสิ่งใด
มาตอบแทนได้ เมื่อลูกกระทำความผิดและถูกลงโทษ แม่มักจะอธิษฐานขอรับกรรมแทนลูก โดย
หวังจะรับแทนลูกทุกอย่าง ยามลูกจากบ้านไปไกลใจแม่ติดตามไปด้วยเสมอ โดยเป็นห่วงว่าลูก
จะหนาวเย็นและเกรงว่าลูกจะได้รับความทุกข์ยากลำบาก ถ้ารู้ว่าลูกได้รับความทุกข์แม้แต่น้อย
แม่ก็จะนอนไม่หลับเป็นทุกข์ไปด้วย
     สรรเสริญ 10 พระคุณที่สงสารลูก ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกประดุจแสงเดือนแสงตะวัน
ที่สาดส่องพื้นปฐพีตลอดกาล พ่อแม่คิดถึงและห่วงใยบุตรตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรืออยู่
ไกลบ้าน ใจก็จะติดตามไปอยู่ข้างๆ พ่อแม่ที่อายุ 100 ปี ก็ยังรักและห่วงใยลูกอายุ 80 ปี
อยู่เสมอ ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อความตายมาพรากจากกัน
     ท่านใดที่ได้อ่านแล้วอย่าลืมโทรไปคุยหรือท่านใดที่อยู่ไม่ไกลพ่อแม่ก็ไปหาท่านบ้างครับ
อย่าปล่อยให้ท่านต้องเฝ้ารอคอยว่าเมื่อไหร่ลูกจะกลับมาหรือโทรมาคุยกับท่านบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น